บทความนี้ ANWSEO บริษัทรับทำ SEO จากใจน้องคิตตี้ที่เป็นคนเขียนบทความนี้ จะมาอธิบายให้ละเอียดเลย สำหรับมือใหม่ SEO นี้ต้องเรียนรู้เลยค่าาา
Duplicate Content คืออะไร ?
“Duplicate content” หมายถึง บล็อกข้อความที่เหมือนหรือคล้ายกันอย่างมีนัยสำคัญซึ่งปรากฏอยู่บน URL มากกว่าหนึ่งหน้า ไม่ว่าจะภายในโดเมนเดียวกันหรือข้ามโดเมนก็ตาม Google ให้นิยามไว้ว่าเป็นเนื้อหาทั้งก้อนหรือส่วนใหญ่ของก้อนที่ซ้ำกันเกือบทั้งหมดหรือซ้ำจน “พอจะถือว่าเหมือน
ยกตัวอย่างง่าย ๆ ก็เช่น การ Copy วางบทความจากเว็บ A ไปแปะที่เว็บ B แล้วไม่ปรับอะไรเลย แบบนี้แหละคือ ตัวแม่แห่ง Duplicate Content เลยค่ะ
Duplicate Content เกิดจากอะไร ?
มาสืบหาต้นตอของภัยเงียบแห่ง SEO อย่าง Duplicate Content กันค่ะ ว่าทำไมเนื้อหาซ้ำ ๆ ถึงเกิดขึ้นได้ง่ายเหมือนแมวหลงเข้าบ้าน! หลายคนอาจเผลอทำซ้ำไปแบบไม่รู้ตัวเลยนะคะ (ไม่ต้องตกใจ น้องคิตตี้เองก็เคยมาแล้ว) แต่รู้มั้ยคะว่าแค่ URL มันงอกเกินมาก็ทำให้ Google สับสนได้เหมือนกัน! มาดูสาเหตุหลัก ๆ กันค่ะว่าอะไรทำให้เกิดเจ้า “เนื้อหาซ้ำ” ตัวร้ายนี้ขึ้นได้บ้าง
1. มีหลาย URL แต่เนื้อหาดันเหมือนกันเป๊ะ
เคยมั้ยคะ? เว็บเดียวกันแท้ ๆ แต่มีหลายลิงก์พาไปหน้าเดียวกัน เช่น…
https://example.com
https://www.example.com
http://example.com
https://example.com/index.php
เนื้อหาเหมือนกันหมดเป๊ะ! แต่นี่แหละค่ะ ตัวต้นเหตุที่ทำให้ Google มึนว่า… “สรุปจะให้จัดอันดับหน้าไหนกันแน่คะ?”
วิธีป้องกัน: เลือกใช้เวอร์ชันหลักให้ชัดเจน แล้วใช้ Canonical Tag บอก Google ว่าอันไหนคือเวอร์ชันแม่ค่ะ
2. การทำ Tracking Parameters (หรือ UTM)
โอ๊ยย ตัวดีตัวเด็ดเลยค่ะ! ใครทำแคมเปญบน Facebook หรือ Google Ads คงคุ้นกับ UTM ประมาณนี้ใช่มั้ยคะ?
https://example.com/page?utm_source=facebook
ดูแล้วไม่น่ามีอะไรใช่ม้า? แต่จริง ๆ แล้วถ้าเราใช้ UTM หลายแบบกับลิงก์เดิม Google ก็จะเห็นว่าเป็น “หลายหน้า” ทั้งที่จริง ๆ มันคือหน้าเดียวกันจ้าาา
วิธีป้องกัน: ใช้ Canonical Tag หรือให้ Google รู้ว่าให้รวมพลังกันไปที่ลิงก์หลักนะค้า ไม่ใช่แยกกันเดิน!
3. เว็บรองรับหลายอุปกรณ์ แต่ดันมีหลาย URL
ใครที่ทำเว็บให้รองรับทั้งมือถือ แท็บเล็ต คอมฯ แล้วใช้ลิงก์แบบนี้…
m.example.com
(สำหรับมือถือ)www.example.com
(สำหรับพีซี)
ทั้งที่เนื้อหาเหมือนกันเป๊ะ แบบนี้ Google ก็จะมึนอีกแล้วค่ะว่า จะเลือกหน้าไหนจัดอันดับดีนะ?
วิธีป้องกัน: ใช้ Responsive Design ดีกว่านะคะ หรือถ้าต้องใช้ URL แยกจริง ๆ ต้องใช้ Canonical ให้ดีค่ะ
4. ใช้ URL แบบไดนามิก
เคยใช้เว็บที่มีการกรองหรือเรียงข้อมูลใช่มั้ยคะ เช่น…
https://example.com/shoes?sort=price-asc
https://example.com/shoes?color=red
มันดูดีใช่ม้า แต่มันสร้างหลายหน้าแบบข้อมูลซ้ำ ๆ อีกเช่นกันค่าาา
วิธีป้องกัน: ควรตั้งค่าให้ Google ไม่ Index ลิงก์ที่เป็น parameter ด้วย robots.txt
หรือใช้ noindex
ค่ะ
5. คัดลอกเนื้อหาไปวางที่อื่น (หรือโดนก็อป!)
อันนี้เจอบ่อยเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น Copy & Paste ไปเว็บอื่นเองเพื่อหวัง Backlink หรือโดนคนอื่น Copy ไป แบบนี้ Google ก็อาจจะงงว่า ใครเป็นต้นฉบับกันแน่นะ?
ถ้าเว็บคุณเป็นที่เผยแพร่ก่อน และมี Authority สูงกว่า มักไม่โดนผลกระทบเท่าไหร่ค่ะ แต่ถ้ายังใหม่อยู่ คิตตี้แนะนำให้รีบแจ้ง Google ด้วย Google Search Console → URL Removal Tool หรือส่ง DMCA Report ได้เลยค่ะ
Duplicate Content ส่งผลเสียต่อการทำ SEO อย่างไร
ลองคิดภาพดูสิคะ ถ้าเราเป็น Google แล้วต้องมาจัดอันดับเว็บที่มีเนื้อหาเหมือนกันเป๊ะ ๆ หลายเว็บ คิตตี้ว่า Google คงอยากนอนตีพุงพักแป๊บ ไม่อยากจัดอันดับให้ใครเลย เพราะเลือกไม่ถูกว่าใครคือ “ต้นฉบับตัวจริง”
แล้ว Duplicate Content มันแย่แค่ไหนนะ ?
บอกเลยค่ะว่า ถ้าเว็บของเพื่อน ๆ มีเนื้อหาซ้ำเยอะ ๆ อาจเจอกับเรื่องเหล่านี้ได้นะคะ:
1. คนหาย…ทราฟฟิกก็หด!
Google อาจลดอันดับหน้าเว็บที่มีเนื้อหาซ้ำ ทำให้จำนวนคนเข้าเว็บจาก Google น้อยลง แบบออร์แกนิก (Organic Traffic) ก็หายไปกับสายลม…เหมือนแฟนเก่า
2. Google Bot เหนื่อย!
ถ้าเว็บมีหลายหน้าที่เนื้อหาคล้ายกันเยอะ ๆ Google อาจรวบรวมข้อมูลได้น้อยลง หรือบางทีอาจไม่ Index หน้าใหม่เลยก็ได้นะคะ
3. เจอ URL ผี! (ไม่ใช่หนังผีนะ)
บางที Google อาจดันไป Index URL แปลก ๆ แทนหน้าหลักของเพื่อน ๆ ส่งผลให้อันดับหน้าเว็บหลักตกแบบงง ๆ
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเว็บเราซ้ำกับใครไหม ?
คิตตี้มีวิธีเช็กง่าย ๆ มาฝากค่ะ:
1. เช็กแบบลึกด้วย Google Search Console
เข้าไปที่ Google Search Console แล้วใช้เครื่องมือ URL Inspection เพื่อตรวจดูว่าแต่ละหน้าเว็บมีปัญหาอะไรหรือเปล่า โดยเฉพาะ Meta Title, Description และ H1
2. อยากรู้ว่าใครก็อปเรา ?
ก็แค่ copy ข้อความจากหน้าเว็บเรา แล้วใส่ในเครื่องหมายคำพูด “…” แล้วไปค้นหาใน Google ถ้ามีเว็บอื่นขึ้นมา ก็แสดงว่าอาจมีคนก็อปไปแน่นอนค่ะ
หรือใครมีหน้าเยอะมาก ๆ ใช้ตัวช่วยดี ๆ อย่าง Copyscape ก็ได้นะคะ เจ๋งมากเลย
วิธีแก้ Duplicate Content แบบมือโปร
1. แจ้ง Google ถ้ามีคนก็อปเนื้อหาเรา
เข้าไปที่ Google Legal Help แล้วร้องเรียนได้เลยค่ะ ถ้าเขาทำผิดจริง Google จะจัดการให้แน่นอน
2. ทำ Canonical Tag
บอก Google ให้รู้ว่า “หน้าไหนคือของจริงนะจ๊ะ” โดยการใส่ Canonical Tag ไว้ใน <head>
ของหน้า HTML เช่น:
<link rel="canonical" href="https://www.example.com/ของจริงค่ะ" />
ถ้าใช้ WordPress ก็ง่ายมาก! ติดตั้งปลั๊กอิน Yoast SEO แล้วใส่ Canonical ได้เลย ไม่ต้องพิมพ์โค้ดให้มือหงิก
3. ใช้ Redirect 301
ถ้าเรามีหลายหน้าแต่เนื้อหาเหมือนกัน ให้เปลี่ยนเส้นทาง URL โดยใช้ Redirect 301 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแบบถาวร (เหมือนเปลี่ยนบ้านแล้วขนของไปอยู่เลยค่ะ)
4. ทำคอนเทนต์ให้เป็น Original เสมอ!
เขียนเอง ปรับเอง ใช้ภาษาที่เป็นเอกลักษณ์ของเราไปเลยค่ะ จะช่วยให้ Google เห็นว่าเราเป็นเจ้าของตัวจริงเสียงจริง และยังเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ด้วยนะคะ
สรุป
- เนื้อหาซ้ำทำให้เว็บไม่ขึ้นอันดับง่าย ๆ แถมคนอ่านก็เบื่อ
- ตรวจสอบได้ทั้งจาก Google Search Console หรือใช้ Copyscape ก็ได้
- แก้ได้หลายวิธี เช่น Canonical, Redirect หรือแจ้ง Google ถ้ามีคนก็อป
- เขียนเองแบบ Original คือคำตอบที่ดีที่สุดค่ะ
ถ้าใครอ่านแล้วรู้สึกว่า “โอ๊ย…เว็บเราก็มีแบบนี้นี่นา!” ก็อย่ารอช้านะคะ รีบไปเช็ก ไปปรับกันเลย เดี๋ยวอันดับจะร่วงแล้วจะหาว่าน้องคิตตี้ไม่เตือนนะคะ~