สวัสดีค่ะทุกคนน~ เคยมั้ยคะ? เขียนบทความตั้งใจสุดใจ ทำภาพประกอบอย่างสวย พาดหัวก็ปัง… แต่ Google ดั๊นนนไม่เอาเว็บเราขึ้นหน้าแรก!
โอ๊ยย…มันเศร้าหนักมากค่ะคุณ!
วันนี้น้องคิตตี้เลยขอพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับ “Technical SEO” หรือ สายเทคนิคของการทำ SEO ที่บางคนอาจยังไม่รู้ว่ามีอยู่จริง (แต่มันสำคัญยิ่งกว่ากาแฟตอนง่วงอีกค่ะ!)
Technical SEO คืออะไร ?
Technical SEO หมายถึง การปรับแต่งโครงสร้างทางเทคนิคของเว็บไซต์ เพื่อให้บอตของ Google และเสิร์ชเอนจินอื่น ๆ สามารถรวบรวมข้อมูล (crawl) ทำความเข้าใจ (index) และจัดอันดับ (rank) ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด ต่างจาก On-page และ Off-page SEO ที่เน้นคอนเทนต์กับลิงก์ภายนอก Technical SEO จะโฟกัสที่ “หลังบ้าน” ของเว็บเป็นหลัก เช่น โครงสร้างโค้ด ประสิทธิภาพเซิร์ฟเวอร์ และประสบการณ์ใช้งานเชิงเทคนิคของผู้ใช้ และให้ Google Bot เข้ามาเก็บข้อมูลได้ง่าย โหลดไว ไม่หลงทางค่ะ
เหตุผลที่ Technical SEO สำคัญ
- เป็นฐานรากของการจัดอันดับ – ต่อให้คอนเทนต์ดีแค่ไหน ถ้าบอตรวบรวมข้อมูลไม่ได้ ก็ไม่มีโอกาสติดหน้าแรก
- เพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพ – Page Speed ดีขึ้น ช่วยลดอัตรา bounce และเพิ่ม conversion
- เสริม Core Web Vitals – ตัวชี้วัดสำคัญด้านประสบการณ์ผู้ใช้ที่ Google นำมาเป็นสัญญาณจัดอันดับ
- ลดปัญหาซ้ำซ้อนของคอนเทนต์ – Canonical URL และโครงสร้างลิงก์ที่ดี ช่วยป้องกัน duplicate content
องค์ประกอบหลักของ Technical SEO
- โครงสร้าง URL และ Canonical Tags
- ใช้ URL ที่สั้น สื่อความหมาย และสอดคล้องโครงสร้างโฟลเดอร์
- ใส่
<link rel="canonical">
เพื่อบอก Google หน้าเวอร์ชันหลัก
- ความเร็วเว็บไซต์ (Page Speed)
- เปิดใช้ HTTP/2 หรือ HTTP/3
- เปิด compression เช่น Gzip/Brotli
- ย่อขนาด CSS/JS และ lazy-load ภาพ
- Mobile-First & Responsive Design
- ตรวจด้วย Google Mobile-Friendly Test
- ใช้ viewport meta tag ที่ถูกต้อง
- XML Sitemap & Robots.txt
- ส่งผังเว็บไซต์อัปเดตสม่ำเสมอผ่าน Search Console
- บล็อกเส้นทางที่ไม่จำเป็นใน robots.txt
- HTTPS & Security Headers
- เข้ารหัสทุกหน้า (SSL/TLS)
- กำหนด HSTS, X-Frame-Options, Content-Security-Policy
- Structured Data (Schema.org)
- เพิ่ม JSON-LD เพื่อช่วยให้ Google แสดง rich results เช่น Breadcrumb, FAQ, Product
- Core Web Vitals (LCP / FID / CLS)
- ปรับรูปภาพและโฮสติ้งให้ลด Largest Contentful Paint
- ใช้ Web Workers หรือ code splitting ลด Interaction Delay
- จองพื้นที่สื่อมัลติมีเดียไว้ ป้องกัน layout shift
10 ทริก Technical SEO ฉบับพื้นฐาน ที่มือใหม่ก็ทำได้
น้องคิตตี้คนเดิมเพิ่มเติมคือมัดรวม “10 ทริก Technical SEO ฉบับพื้นฐาน” ที่มือใหม่ก็ทำได้ นักพัฒนาโปรฯ ก็เก็ท แถมอัปเดตล่าสุดปี 2025 ให้เรียบร้อย
1. เปิดทางให้บอตเดินสบาย ๆ
- จัด robots.txt ให้ “บล็อก” เฉพาะโฟลเดอร์ต้องห้าม (เช่น
/wp-admin/
) แล้วปล่อยหน้าเงินล้านให้ไต่อันดับเต็มที่ - หน้าไหนต้องการซ่อนจากผลค้นหาปกติแต่ยังอยากให้ถูก index ตอนฝัง iframe ใช้ meta tag
indexifembedded
นะคะ Google for Developers
2. XML Sitemap แบบครบวงจร
สร้าง sitemap แยกตามชนิดคอนเทนต์ (หน้า-บทความ-รูป-วิดีโอ) แล้ว ping ใน Search Console ทุกครั้งที่อัปเดตเยอะ ๆ เพื่อไม่ให้บอตมึนงง
3. ตบ Core Web Vitals ให้เขียวสด
- ปี 2024 Google เปลี่ยนตัวชี้วัด “ความตอบสนอง” จาก FID เป็น INP (Interaction to Next Paint) ไปแล้วนะคะ — อย่าเผลอยึดคะแนน FID อยู่ล่ะ! Google for Developers web.dev searchengineland.com
- เป้าเบื้องต้น:
- LCP < 2.5 วิ
- INP ≤ 200 มิลลิวินาที
- CLS < 0.1
- ทิปเร็วฟ้าผ่า: เปิด HTTP/3, เปิด Brotli, lazy-load รูป/วิดีโอ แค่นี้ผู้ใช้ก็ไม่ทันบ่นค่ะ
4. Mobile-first or Go Home!
Google มองจอเล็กเป็นหลักมาเป็นปี ๆ แล้ว บอก dev ว่า “ถ้า viewport กับ touch target พลาด แมวคิตตี้จะตามมาแทะสายชาร์จนะคะ”
5. URL สั้น-หวาน-โดนใจ
- ใช้คีย์เวิร์ดหลัก 1-2 คำ เช่น
/technical-seo-checklist
พอ - เลี่ยงพารามิเตอร์ยาวจนลากเมาส์หอบ แล้วตั้ง canonical ให้ทุกเวอร์ชันจิ้มไป URL แม่อย่างชัดถ้อยชัดคำ
6. HTTPS & Security Headers
- ไม่มี SSL = ไม่มีความรักจาก Google
- เสริม HSTS, X-Frame-Options, CSP กันสแปม iframe แสบ ๆ คาใจ
7. Structured Data เล่าเรื่องให้บอตฟัง
ติด JSON-LD schema ให้ครบ — Breadcrumb, FAQ, Product, Event อะไรมีใส่ให้หมด โอกาสได้ rich result ขึ้นฟีดก็เหมือนถูกหวยจ้า
8. Page Status & Redirects
- 200 ตกหล่น = เสียทราฟฟิก
- 3xx chain ยาว = เสียพลังบอท
ทำ redirect map เก็บทีละรุ่น เวลาย้ายเว็บจะได้ไม่หลงทางเหมือนคิตตี้ตอนหาขนมยามดึก
9. Faceted Navigation แบบไม่สูบงบ Crawl
ถ้าเว็บมีฟิลเตอร์สินค้าหนัก ๆ ให้ใช้ noindex+follow หรือ AJAX ที่เติมผลลัพธ์ผ่าน History API จะช่วยรักษา crawl budget ได้เป็นกอบเป็นกำ
10. วัด-แก้-วัด (วนลูปไปจนสวย)
- Audit เดือนละครั้งด้วย Search Console, Lighthouse, WebPageTest
- ตั้ง CI/CD ตรวจ Core Web Vitals ทุกครั้งก่อน deploy (จะได้ไม่ตื่นมาหน้าเหลือง)
- เก็บโลกรู้ด้วยแดชบอร์ด Looker/BigQuery — ดูกราฟแล้วคิตตี้จะส่งสติกเกอร์แมวเต้นให้เอง
ทำ Technical SEO ต้องรู้อะไรบ้าง ?
1. Crawling – พาแมงมุมกูเกิลเดินเล่นสบายเท้า
นิยามสั้น ๆ: ทำให้บอต (Googlebot) “เดิน” เก็บเนื้อหาในเว็บเราได้รวดเร็ว ไม่สะดุด ไม่หลงทาง
ถ้าแมงมุมไต่ไม่ทั่ว เว็บก็เหมือนแมวซ่อนอยู่ใต้เตียง—น่ารักแต่ไม่มีใครเห็นค่ะ!
สูตรคิตตี้ให้บอตรัก
- Robots.txt พูดจารู้เรื่อง
- บล็อกแค่โฟลเดอร์ลับเช่น
/wp-admin/
พอค่ะ ที่เหลือปล่อยไต่ตามสบาย
- บล็อกแค่โฟลเดอร์ลับเช่น
- XML Sitemap จัดหมวดหมู่เนียน ๆ
- แยกบทความ / รูป / วิดีโอ แล้วส่งผ่าน Search Console ทุกครั้งที่เขียนบทใหม่
- ลิงก์ภายในคือเส้นทางลัด
- ใส่ breadcrumb & in-content link ให้บอตข้ามหน้าไปมาเหมือนเล่นสไลเดอร์
- Core Web Vitals เขียวสด
- ปี 2024 Google เปลี่ยนตัวชี้วัด “ความไว” จาก FID เป็น INP แล้วนะคะ ถ้า INP ≤ 200 ms บอตเดินฉิว ผู้ใช้ก็ปรบมือ
บอตจะมาเยี่ยมเมื่อไร?
- ปกติ Googlebot มี “ตารางเวร” ของตัวเอง เรียกว่า Crawl Budget ค่ะ
- ถ้าเว็บอัปเดตบ่อย ๆ หรือมีลิงก์คุณภาพชี้เข้ามา บอตจะโผล่มาถี่ขึ้น
- ด่วนสุด ๆ ก็กด “Request Indexing” ใน Search Console ได้ แต่ใช้แค่เวลาจำเป็นนะคะ เดี๋ยวเหมือนกดกริ่งไล่แมว
3. Indexing – เก็บไฟล์ใส่ตู้ใหญ่ของ Google
นิยามสั้น ๆ: หลังบอตอ่านจบ Google จะ “บันทึก” หน้าเพจลงคลังข้อมูล หากเนื้อหาตรงกับสิ่งที่คนค้น หน้าเพจเราก็มีสิทธิ์โชว์บนหน้าผลลัพธ์ (SERP)
เช็กง่าย ๆ ว่าอะไรถูก Index แล้ว
ง่ายมากค่ะ แค่พิมพ์ใน Google แบบนี้:
site:ชื่อโดเมนของเรา
เช่น: site:www.kittyseo.com
Google ก็จะโชว์ขึ้นมาว่า ตอนนี้เว็บเรามีทั้งหมดกี่หน้าเพจที่ถูก Index แล้ว
อยากเช็กเฉพาะหน้าก็ได้ค่ะ
เช่น:
site:www.kittyseo.com/blog/technical-seo
ถ้าขึ้นมาแค่หน้าเดียว = ผ่านค่ะ!
แต่ถ้าไม่ขึ้นเลย = เอ้า! ยังไม่โดน Index รีบไปตรวจที่ Google Search Console ด่วนเลยนะคะ!
ทำยังไงให้ Index ไวติดเทอร์โบ
- โครงสร้างข้อมูล (Schema) — ใส่
<meta>
JSON-LD
ให้ครบ Google จะใช้เวลาตีความน้อยลง - หลีกเลี่ยง Duplicate Content — ตั้ง
rel="canonical"
ให้ชัด, ปรับ query string ที่ซ้ำซ้อน - เนื้อหามีคุณภาพ & ใหม่จริง — อัปเดตรูป และสถิติปี 2025 ขึ้นไป Google จะเห็นว่า “สด” ไม่ใช่ปลาทูค้างตู้เย็น
อธิบายให้เข้าใจสั้นๆคือ
- Crawling คือการเปิดประตูบ้านให้แมงมุมเข้ามาส่องทุกซอกมุม
- Indexing คือการเก็บรูปบ้านเราลงอัลบั้ม Google ถ้าไม่ติดอัลบั้ม คนก็หาไม่เจอนะคะ
ทำสองขั้นตอนนี้ให้เป๊ะ แล้วต่อยอด On-page / Off-page ทีหลัง อันดับจะพุ่งเองเหมือนแมวเห็นปลาทูใน TikTok!
สรุป
- Technical SEO คือการดูแล “หลังบ้าน” ให้เว็บเราแข็งแรง ถูกใจ Google Bot
- แค่ 10 ข้อนี้ ถ้าทำครบ เว็บของเพื่อน ๆ ก็พร้อมจะก้าวสู่หน้าแรกแบบปัง ๆ แล้วค่ะ!
- ใครที่ยังไม่เคยตรวจอะไรเลย…เริ่มวันนี้ยังไม่สาย เดี๋ยว Google จะรักแบบไม่ต้องบอกรักเลยค่ะ
อยากได้เช็กลิสต์โหลดไว้เช็กประจำสัปดาห์ หรือเวอร์ชันแจกทีม Dev น้องคิตตี้ก็จัดให้ได้นะคะ ทักมาได้เลยค่ะ~ จะได้ช่วยให้เว็บไซต์ของเพื่อน ๆ โดดเด่นแบบมี Technical แบบสายแฟ!