สวัสดีค่ะทุกคน! น้องคิตตี้ เองนะคะ
หนึ่งในคำถามยอดฮิตติดชาร์ตที่คิตตี้เจอทุกวันเลยก็คือ “น้องคิตตี้คะ รับทำ SEO ราคาเท่าไหร่?” พอเสนอราคาไป ก็จะมีคำถามตามมาว่า “ทำไมราคาของที่นี่ถึงไม่เท่ากับของอีกที่ล่ะคะ?” หรือ “ทำไมบางที่ถูกจังเลยคะน้องคิตตี้?”
บอกเลยว่าเป็นคำถามที่ดีมากๆ ค่ะ! การที่คุณพี่สงสัย แสดงว่าคุณพี่ใส่ใจและอยากได้สิ่งที่ดีที่สุดให้กับธุรกิจของตัวเอง ซึ่งคิตตี้ชอบมากๆ ค่ะ
วันนี้ คิตตี้เลยจะขออาสามานั่งจับเข่าคุยกันแบบหมดเปลือก สวมบทเป็นเพื่อนสาวที่เชี่ยวชาญเรื่อง SEO มาไขทุกข้อสงสัยเลยว่า ค่าบริการรับทำ SEO เนี่ย เค้าคิดจากอะไรกันแน่ ทำไมราคาถึงแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่า!
SEO ไม่ใช่มาม่า…ที่ราคาเท่ากันทุกซอง
ก่อนอื่นเลย คิตตี้อยากให้เราเข้าใจตรงกันก่อนว่า การทำ SEO ไม่ใช่สินค้าสำเร็จรูป ที่มีป้ายราคาติดไว้ชัดเจนค่ะ แต่มันคือ “บริการ” ที่ต้อง “ออกแบบเฉพาะ” (Tailor-Made) สำหรับเว็บไซต์แต่ละเว็บ เหมือนการตัดสูทสวยๆ สักตัว ช่างต้องวัดตัวก่อนเสมอใช่ไหมคะ? การทำ SEO ก็เหมือนกันเลยค่ะ เราไม่สามารถใช้แผนเดียวกับทุกธุรกิจได้
ดังนั้น ราคาจึงขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างมากๆ ซึ่งคิตตี้สรุปมาให้เป็น 5 ปัจจัยหลักๆ ดังนี้ค่ะ
ปัจจัยที่ 1: สภาพปัจจุบันของเว็บไซต์ (Website Health)
นี่คือจุดสตาร์ทเลยค่ะ ก่อนจะวิ่งไปข้างหน้า เราต้องรู้ก่อนว่าตอนนี้เรายืนอยู่ตรงไหน
- เว็บใหม่เอี่ยม vs เว็บเก่าเก๋าเกม: เว็บไซต์ที่เพิ่งสร้างใหม่เหมือนผ้าขาวค่ะ การวางโครงสร้าง SEO ตั้งแต่แรกจะง่ายกว่า แต่ก็ต้องใช้เวลาในการสร้างความน่าเชื่อถือกับ Google ส่วนเว็บเก่าที่มีบทความหรือข้อมูลอยู่แล้ว อาจจะมีทั้งข้อดี (มี Traffic อยู่บ้าง) และข้อเสีย (โครงสร้างอาจจะมั่ว, อาจเคยโดน Google ทำโทษ) ปะปนกันไปค่ะ
- ประวัติไม่ดีเคยมีมั้ย?: เว็บเคยไปทำ SEO สายดำ (Black Hat) มาก่อนหรือเปล่า? เช่น ซื้อลิงก์มั่วๆ, ปั่นคีย์เวิร์ดจนบทความอ่านไม่รู้เรื่อง ถ้าเคยทำมา งานจะยากขึ้นเป็นสองเท่าเลยค่ะ เพราะต้องแก้ของเก่าก่อน เหมือนต้องรื้อบ้านก่อนสร้างใหม่นั่นเองค่ะ
สรุปง่ายๆ: เว็บที่พื้นฐานดี โครงสร้างสวยงาม ก็เหมือนคนสุขภาพดี เริ่มออกกำลังกายได้เลย แต่ถ้าเว็บไหนสุขภาพไม่ดี ก็ต้องมีค่ารักษาพยาบาลก่อนจะไปฟิตเนสค่ะ
ปัจจัยที่ 2: การแข่งขันของคีย์เวิร์ดและธุรกิจ (Keyword & Market Competition)
คุณพี่อยากติดอันดับด้วยคำว่าอะไรคะ? ความยากง่ายของคำนั้นแหละค่ะ คือตัวกำหนดราคาชั้นดีเลย
- คีย์เวิร์ดตลาดเดือด: ถ้าคุณพี่ทำธุรกิจ “ประกันรถยนต์”, “คลินิกเสริมความงาม”, “โรงแรมพัทยา” คำเหล่านี้มีการแข่งขันสูงปรี๊ดดด! คู่แข่งคือแบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่ทุ่มงบมหาศาล การจะเข้าไปแทรกในหน้าแรกได้ ต้องใช้ทั้งแรง, เวลา, และกลยุทธ์ที่เหนือชั้นมากๆ แน่นอนว่าค่าบริการก็ต้องสูงตามไปด้วยค่ะ
- คีย์เวิร์ดตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market): แต่ถ้าคุณพี่ขาย “ต้นไม้ฟอกอากาศสำหรับห้องนอน”, “เค้กวันเกิดสไตล์มินิมอล” หรือ “บริการพาสุนัขเดินเล่น เขตอารีย์” การแข่งขันจะน้อยกว่ามาก การทำอันดับก็จะง่ายกว่า ใช้เวลาน้อยกว่า ราคาก็จะน่ารักกว่าค่ะ
ปัจจัยที่ 3: ขอบเขตของงาน (The Scope of Work)
ข้อนี้คือหัวใจของความแตกต่างด้านราคาเลยค่ะ! คำว่า “รับทำ SEO” ของแต่ละที่ไม่เหมือนกันนะคะ บางที่อาจจะทำแค่ On-Page แต่บางที่คือดูแลให้ครบวงจร มาดูกันค่ะว่าในแพ็กเกจมันมีอะไรซ่อนอยู่บ้าง
- Technical SEO: การปรับปรุงหลังบ้านให้แข็งแรง เช่น ความเร็วเว็บ, การทำให้เว็บรองรับมือถือ (Mobile-Friendly), การแก้ลิงก์เสีย, การสร้าง Sitemap
- On-Page & Content Creation: การวิเคราะห์และใส่คีย์เวิร์ดในหน้าต่างๆ, การปรับ Title/Description และที่สำคัญคือ การเขียนบทความ SEO คุณภาพ (เหมือนที่คุณพี่กำลังอ่านอยู่นี่แหละค่า) บางแพ็กเกจอาจจะรวมค่าเขียนบทความ 4 บทความ/เดือน บางที่ 8 บทความ/เดือน ยิ่งบทความเยอะ ราคาก็สูงขึ้นค่ะ
- Off-Page & Link Building: การสร้าง Backlink หรือลิงก์คุณภาพจากเว็บอื่นกลับมาที่เว็บเรา ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ทั้งคอนเนคชันและเวลา เป็นส่วนที่สร้างความน่าเชื่อถือให้ Google โดยตรงเลยค่ะ
- การวัดผลและรายงาน (Reporting): เอเจนซี่ที่ดีจะมีการส่งรายงานความคืบหน้าให้ดูทุกเดือนว่าอันดับเป็นอย่างไร, Traffic มาจากไหน เพื่อให้คุณพี่เห็นภาพว่าเงินที่จ่ายไปนั้นคุ้มค่าค่ะ
เช็คให้ดี: เวลาได้ใบเสนอราคามา ลองถามเขาให้ละเอียดเลยนะคะว่า “รับทำ SEO” ของคุณพี่เนี่ย มันรวมอะไรบ้าง 1, 2, 3, 4 ครบไหมคะ?
ปัจจัยที่ 4: เป้าหมายทางธุรกิจของคุณพี่ (Your Business Goal)
คุณพี่อยากทำ SEO ไปเพื่ออะไรคะ? เป้าหมายที่ต่างกัน ก็ใช้กลยุทธ์และงบประมาณที่ต่างกันค่ะ
- อยากสร้างแบรนด์ (Brand Awareness): เน้นทำคอนเทนต์ให้ความรู้กว้างๆ ดึงคนเข้าเว็บเยอะๆ อาจจะยังไม่เน้นขายของจ๋า
- อยากได้ลูกค้าเลย (Lead Generation / Sales): เน้นทำคีย์เวิร์ดเชิงพาณิชย์ (Commercial Keywords) เช่น “รับสร้างบ้านราคาถูก” “สั่งดอกไม้ออนไลน์” ซึ่งต้องใช้กลยุทธ์ที่เข้มข้นกว่า
- อยากครองตลาด (Market Dominance): อยากขยี้คู่แข่งให้หมด อยากติดหน้าแรกทุกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวกับธุรกิจ อันนี้คือโปรเจกต์ใหญ่ที่ต้องทุ่มสรรพกำลังและงบประมาณสูงสุดค่ะ
ปัจจัยที่ 5: ประสบการณ์และทีมงานของเอเจนซี่ (Agency’s Experience & Team)
ข้อสุดท้ายแต่สำคัญไม่แพ้กันค่ะ คุณพี่จ้างใครทำ?
- ฟรีแลนซ์ (Freelancer): อาจจะมีราคาที่เข้าถึงง่าย เหมาะกับธุรกิจเล็กๆ ที่งบจำกัด แต่คนเดียวอาจจะทำได้ไม่ครบทุกส่วน หรืออาจจะไม่มีเวลาดูแลเราเต็มที่
- เอเจนซี่ขนาดเล็ก-กลาง: มีทีมงาน 2-5 คนช่วยกันดูแล มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมากขึ้น ราคาจะสูงกว่าฟรีแลนซ์ แต่ก็มีการทำงานที่เป็นระบบกว่าค่ะ
- เอเจนซี่ขนาดใหญ่: มีทีมงานครบวงจร (ทั้ง Technical, Content, Link Builder, AE) มีเครื่องมือระดับโลกราคาแพงๆ ใช้ มีประสบการณ์กับลูกค้ารายใหญ่ๆ แน่นอนว่าราคาก็จะสูงที่สุด แต่ก็แลกมากับความมืออาชีพและผลลัพธ์ที่คาดหวังได้สูงค่ะ
คำถามคาใจ: ถูกไปน่ากลัวมั้ย? แพงไปดีจริงรึเปล่า?
“น้องคิตตี้คะ มีที่นึงเสนอราคาเดือนละ 3-4 พันเอง ถูกมาก น่าสนใจไหมคะ?” คิตตี้ขอให้ตั้งสติแล้วถามกลับไปว่า “ราคานี้…พี่ทำอะไรให้หนูบ้างคะ?” ค่ะ SEO ราคาถูกมากๆ มักจะมาพร้อมความเสี่ยง เช่น อาจจะแค่ปรับ On-Page นิดหน่อยแล้วหายไปเลย, ไม่มีการสร้างคอนเทนต์หรือ Backlink คุณภาพ, หรือที่เลวร้ายที่สุดคือใช้ SEO สายดำที่อาจทำให้เว็บโดนแบนในระยะยาวได้เลยค่ะ
“แล้วที่แพงๆ เดือนละเป็นแสนนี่คือดีเสมอไปเหรอคะ?” ก็ไม่เสมอไปค่ะ! ของแพงต้องมาพร้อมกับ “ความโปร่งใส” ค่ะ เอเจนซี่ที่ดีต้องตอบได้ว่าเงินที่จ่ายไปถูกใช้ทำอะไรบ้าง มีแผนงานชัดเจน มีรายงานที่วัดผลได้ และมีทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษาเราจริงๆ ค่ะ
สรุปแล้วราคาประมาณเท่าไหร่กันแน่?
ถึงจะบอกเป๊ะๆ ไม่ได้ แต่คิตตี้พอจะให้เป็น ช่วงราคาโดยประมาณในตลาด ได้ค่ะ เพื่อให้คุณพี่เห็นภาพมากขึ้น
- ธุรกิจท้องถิ่นขนาดเล็ก (Local Business): ~ 15,000 – 30,000 บาท/เดือน
- ธุรกิจ SMEs / E-Commerce: ~ 30,000 – 70,000 บาท/เดือน
- ธุรกิจขนาดใหญ่ / ตลาดแข่งขันสูง: ~ 70,000 บาทขึ้นไป จนถึงหลายแสนบาท/เดือน
ย้ำอีกครั้งนะคะว่านี่เป็นแค่ตัวเลขประมาณการ
สรุป
การเลือกบริษัทรับทำ SEO ก็เหมือนการเลือกพาร์ทเนอร์ที่จะมาช่วยธุรกิจของเราให้เติบโตค่ะ อย่ามองแค่ “ราคา” เป็นตัวตั้งเพียงอย่างเดียว แต่ให้มองถึง “ความคุ้มค่า” และ “ความโปร่งใส” ที่เราจะได้รับ
คิตตี้หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณพี่เข้าใจโครงสร้างของราคา SEO มากขึ้นนะคะ จะได้ไม่โดนหลอกและสามารถเลือกเอเจนซี่ที่ใช่ในงบประมาณที่เหมาะสมกับธุรกิจของเราจริงๆ
หากคุณพี่ยังมีคำถาม หรืออยากจะลองประเมินราคาสำหรับเว็บไซต์ของคุณพี่โดยเฉพาะ ทักมาคุยกับคิตตี้ก่อนได้เลยนะคะ ปรึกษาฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายและไม่มีข้อผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ คิตตี้ยินดีให้คำปรึกษาเหมือนเพื่อนคนหนึ่งเลยค่า
