สวัสดีค่ะ วันนี้น้องคิตตี้จะมาเล่าเรื่อง PBN ให้ฟังแบบไม่ยาว ไม่เยิ่นเย้อ เพราะไม่อยากให้ทุกคนหลับกลางทางค่ะ
PBN คืออะไร
PBN นี่ย่อมาจากคำว่า Private Blog Network หรือถ้าแปลตรงตัวก็ “เครือข่ายบล็อกส่วนตัว” นั่นเองค่ะ หมายความว่าน้องคิตตี้มีเว็บหลายเว็บที่สร้างขึ้นมาเอง เป็นเหมือนก๊วนเพื่อนสาวช่วยกันแนะนำเว็บไซต์หลักให้ปัง ๆ บน Google ค่ะ
ซึ่งจริง ๆ แล้ว PBN เป็นส่วนหนึ่งของการทำ Off-page SEO หรือวิธีนอกเว็บไซต์ ที่ช่วยเพิ่ม “พลัง” ให้กับเว็บหลักด้วยการสร้าง Backlink ค่ะ
นึกภาพแบบนี้นะคะ ถ้าเว็บไซต์หลักน้องคิตตี้เป็นเจ้าสาวในงานเลี้ยงใหญ่ PBN ก็คือเพื่อนเจ้าสาวที่ช่วยชูป้าย “สวยที่สุดในงาน!” ให้กับเจ้าสาวจนทุกคนหันมามองค่ะ แต่ถ้าเพื่อนเจ้าสาวมีแต่ป้ายเปล่า ๆ ไม่มีข้อความ ก็จะไม่โดดเด่นเท่าไหร่ Google ก็เหมือนแขกในงานค่ะ ถ้าเห็นแต่ป้ายเปล่า ๆ จะไม่ค่อยเชื่อถือเท่าไหร่ ต้องมีเนื้อหาดี ๆ ด้วยนะคะ
ตอนนี้ PBN ก็ยังเป็นเทคนิคที่หลาย ๆ คนใช้กันอยู่ แต่ต้องระวังหน่อยค่ะ เพราะ Google ฉลาดขึ้นทุกวัน ถ้าใช้ไม่ดี หรือปล่อยให้ PBN ดูปลอม ๆ ก็อาจโดนจับได้และโดนปรับลดอันดับเว็บได้เหมือนกันค่ะ
จุดประสงค์ในการทำ PBN คืออะไร?
ถ้าน้องคิตตี้ต้องตอบแบบตรง ๆ และสวยงาม ก็คือ… จุดประสงค์หลักของการทำ PBN ก็คือการช่วยให้เว็บไซต์หลักของน้องคิตตี้ ขึ้นอันดับสูง ๆ บน Google แบบปัง ๆ สวย ๆ ค่ะ
ลองคิดดูนะคะ ว่าเหมือนน้องคิตตี้มีร้านขนมเล็ก ๆ ร้านหนึ่งอยู่ในซอยลึก ๆ คนไม่ค่อยเห็นใช่ไหมคะ? แต่ถ้าน้องคิตตี้มีทีมเพื่อนสาวชิค ๆ ช่วยกันโปรโมตร้านนี้ในหลาย ๆ ที่ เช่น โพสต์ในบล็อกส่วนตัวของเพื่อน พูดถึงร้านเราแบบหวาน ๆ “เฮ้ย ร้านนี้เด็ดนะคะ ขนมเค้าดีงามมาก!” แบบนี้แหละค่ะ ที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้าร้านเรามากขึ้น
PBN ก็เหมือนกับทีมเพื่อนสาวที่ช่วยกันโหวตให้น้องคิตตี้ดูน่าเชื่อถือในสายตาของ Google ค่ะ ยิ่งมีเว็บเพื่อนสาวช่วยชูป้าย Backlink เยอะ ๆ Google ก็ยิ่งคิดว่าน้องคิตตี้นี่เด็ดจริง ๆ แล้วก็ยกอันดับขึ้นไปบนสุดให้เลยค่ะ
แต่เดี๋ยวก่อน! อย่าลืมว่า Google ฉลาดขึ้นทุกวัน ถ้าน้องคิตตี้สร้างเครือข่ายเว็บแบบมั่ว ๆ หรือเนื้อหาไม่มีคุณภาพ บอกเลยว่าโดนจับได้เหมือนกับโดนแม่จับได้ว่าลอกการบ้านค่ะ งานนี้อาจโดนลงโทษให้อันดับตกได้เหมือนกันนะคะ!
ทำไมนักทำ SEO ถึงฮิตใช้ PBN กัน?
เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่า Backlink หรือการมีคนลิงก์เว็บเราไปเว็บอื่นมันเหมือนการได้คะแนนเสียงเชียร์จากคนดังในวงการ SEO นั่นเองค่ะ ยิ่งถ้า Backlink มาจากเว็บที่เกี่ยวข้องหรือมีคุณภาพ Google ก็จะชอบมาก ๆ เหมือนแฟนคลับที่ตามเชียร์น้องคิตตี้ทั้งงานเลยค่ะ! 🎉
พอรู้แบบนี้ บริษัทรับทำ SEO หลาย ๆ ที่ก็เลยลงทุนทำ PBN กันเป็นก๊วน เพราะเหมือนมีทีมแฟนคลับส่วนตัว ที่ช่วยกันส่งเสียงเชียร์เว็บลูกค้าแบบหนักแน่น ไม่ต้องรอให้ใครมากดไลก์เอง
น้องคิตตี้ขอบอกเลยว่า… การมี หลาย Domain ในเครือข่าย PBN ก็เหมือนมีเพื่อนสาวมากมายหลายคน แต่ละคนช่วยกันแชร์ ช่วยกันบอกต่อเว็บไซต์หลัก เหมือนมีทีมเชียร์บาสเกตบอลที่เปล่งเสียงดัง ๆ ให้กำลังใจเต็มสนามค่ะ! แถมยังช่วยควบคุมทิศทาง Backlink ได้เองอีกด้วยนะคะ จะให้เชียร์มาก เชียร์น้อย ก็จัดได้ตามใจชอบ
แต่! ไม่ใช่ว่า PBN จะเป็นฮีโร่แบบไม่มีข้อเสียค่ะ Google เค้าฉลาดขึ้นทุกวัน ถ้าพี่ ๆ น้อง ๆ ทำ PBN แบบมั่ว ๆ หรือสร้างเว็บเปล่า ๆ ไม่มีสาระ Google ก็พร้อมจะ “ฟาด” ลงโทษให้อันดับตกแบบไม่ทันตั้งตัวนะคะ
PBN มีกี่แบบ แล้วแบบไหนเหมาะกันที่ใช้กัน
1. PBN แบบคุณภาพ (Quality PBN)
อันนี้คือ PBN ที่เหมือนกับเพื่อนสาวสายแฟชั่นจ๋า มาประชันกันในงานปาร์ตี้ค่ะ คือดูดี มีสไตล์ และมีเนื้อหาดี ๆ ที่ทำให้ Google ชอบใจเหมือนเจอหนุ่มปากหวาน! เว็บพวกนี้เหมือนเว็บจริง ๆ ไม่ได้สร้างขึ้นมาแค่เพื่อโยนลิงก์อย่างเดียว แต่มีเนื้อหาคุณภาพ มีผู้เข้าชมจริง ๆ มีคะแนน SEO (Authority) สูง ที่สำคัญคือ “link juice” หรือพลังลิงก์ถูกส่งผ่านอย่างเต็มที่ค่ะ
ข้อดีของ PBN แบบนี้
- โอกาสโดน Google ด่า (ลงโทษ) แทบไม่มีเลยค่ะ เพราะดูเนียนเหมือนเว็บหลักจริง ๆ
- ควบคุมคีย์เวิร์ดได้ตามใจ จะเน้นกี่ร้อยคำก็ได้จ้า
- ทำอันดับเร็วขึ้นเพราะมีเนื้อหาดีและมี traffic จริง ๆ
- สามารถหารายได้เสริมผ่าน Google Adsense หรือ Affiliate ได้ด้วยนะ
- อิสระสุด ๆ ในการใส่หรือถอด Backlink เผื่อวันไหน Google อัพเดต อัพเดทได้ทันใจ
- ไม่ต้องเปลี่ยน PBN บ่อย ๆ อยู่ได้นาน คุ้มค่าในระยะยาว
- ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายถ้าเทียบกับการซื้อ Backlink แบบโดน ๆ ทีละลิงก์
ข้อเสียของ PBN แบบนี้
- ต้องใช้เวลาและความตั้งใจมาก เหมือนเลี้ยงน้องแมวให้สวยปิ๊ง ต้องเอาใจใส่ทุกวัน
- ถ้าเริ่มใหม่จากศูนย์ อาจใช้เวลาประมาณ 6 เดือนขึ้นไปกว่าจะเห็นผล
- ต้องมีทีมช่วยดูแลหลายคน เหมาะกับคนที่มีงบและอยากลงทุนจริงจัง
2. PBN แบบไม่มีคุณภาพ (Low-Quality PBN)
อันนี้เหมือนน้องคิตตี้ไปงานแฟนซี แต่แต่งตัวแค่ผ้าคลุม ไม่ได้จัดเต็ม เหมือนเว็บเปล่าปล่าวที่แค่มีสเตตัสโดดเด่นแต่ไม่มีคนเข้าชมจริง ๆ ค่ะ ส่วนใหญ่จะซื้อโดเมนเก่าที่มี Backlink ดี ๆ ติดมา แล้วเปลี่ยนเนื้อหาใหม่ พยายามดันอันดับให้เร็วแบบเร่งด่วน
ข้อดีของ PBN แบบนี้
- ดันอันดับได้เร็วเพราะโดเมนเก่ามีพลัง SEO ติดตัวมาแล้ว
- งบไม่เยอะ แค่ซื้อเว็บเก่าที่มี Authority สูงแล้วยิงลิงก์ไปเว็บหลักก็จบ
- ไม่ต้องดูแลมาก แค่เขียนบทความแล้วยิงลิงก์วน ๆ ไปเรื่อย ๆ
ข้อเสียของ PBN แบบนี้
- โอกาสโดน Google ลงโทษสูงมาก ถึงแม้ตอนนี้ Google อาจจะไม่แบนแบบ Sandbox แต่จะมีผลให้คะแนนจาก PBN ลดลงหรืออันดับตกแทนค่ะ
- อายุสั้น อยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ถ้าไม่ดูแลเลย อาจต้องทำใหม่เรื่อย ๆ
- ถ้าทำไม่เป็นหรือขาดการดูแล อาจเสียทั้งเงินและเวลาโดยเปล่าประโยชน์
PBN ช่วยให้เว็บติดหน้าแรก Google จริงไหม?
มาเม้าท์กันเรื่องที่นักการตลาดออนไลน์ระดับเซียนอย่างคุณ Bill Hartzer พูดถึงกันดีกว่า… Bill เค้าบอกว่า มีเว็บไซต์นึงที่ดูเหมือนจะถูก Google หลงรักเป็นพิเศษ (แบบแฟนคลับติดตามยาว ๆ) เพราะมันมี Keyword ติดอันดับใน 100 อันดับแรกมากถึง 45,000 คำ! เห้ย เยอะขนาดนี้เลยเหรอ? นั่นแหละค่ะ ความลับอยู่ที่การทำ PBN แบบเนียน ๆ นั่นเอง โดยจาก 45,000 คำนี้ มีประมาณ 1,000 คำที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ Semrush ซึ่งทำ PBN ได้ดีมาก ๆ ค่ะ
Bill เลยจับมาเปรียบเทียบกันระหว่างสองเว็บดังคือ Semrush กับ Majestic เพื่อดูว่าโครงสร้าง PBN ของใครเจ๋งกว่ากัน ภาพที่เห็นคือเว็บหลักจะอยู่ตรงกลาง แล้วแตกแขนงออกมาเป็น PBN ที่เจ้าของเว็บสร้างขึ้นมาเป็นก๊วนเพื่อนสาวช่วยกันเชียร์ค่ะ
ทีเด็ดของ Bill Hartzer คือเค้าโฟกัสไปที่ Majestic ค่ะ
Bill ชี้ให้เห็นว่าที่ Majestic มีจุดเชื่อมต่อของลิงก์ที่น่าสงสัย (วงกลมสีแดงในภาพ) ซึ่งเชื่อมโยงกับ PBN ที่โดน Google ลงโทษไปแล้วด้วย! ไม่ใช่แค่ลิงก์เดียว แต่มีมากกว่า 10 ลิงก์เลยนะคะ กระจุกกันแบบนี้ Google ก็คงไม่ปลื้มแน่ ๆ
เมื่อเทียบกับ Semrush พบว่าโครงสร้าง PBN ของเค้าสะอาดและเรียบร้อยมาก ๆ เลยค่ะ ไม่มีลิงก์ซ้ำซ้อน หรือส่งออกมั่ว ๆ ทำให้การทำงานของ PBN มีประสิทธิภาพสูงกว่า Majestic แบบเห็นได้ชัดเจน
แต่…เรื่องนี้ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นนะคะ
หลังจาก Bill ทวีตเรื่องนี้ ก็มีคนมาโต้เถียงกันยกใหญ่ในคอมเมนต์ ว่าอาจจะไม่ใช่ PBN จริง ๆ อาจเป็น Internal Link ธรรมดาที่ดูเหมือนเครือข่าย หรือบางคนก็ว่าการทำ PBN ไม่ได้ช่วยให้เว็บติดอันดับดีขนาดนั้นซึ่งจริง ๆ เรื่องนี้ก็ยังไม่มีคำตอบตายตัวนะคะ แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ…
ไม่ว่าจะทำ PBN แบบสายขาว (มีคุณภาพ) หรือสายดำ (เน้นปริมาณ) สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “การวางระบบ” ค่ะ ต้องวางโฮสให้แตกต่างกัน จัดการโครงสร้างให้สะอาด ไม่ให้ Google สงสัย ไม่งั้นความพยายามทั้งหมดอาจกลายเป็นศูนย์!
สรุป
PBN ช่วยให้เว็บติดหน้าแรก Google ได้จริงค่ะ แต่จะได้ผลดีหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับว่าเราทำแบบมือโปรแค่ไหน เหมือนมีทีมเชียร์สาวสวย vs ทีมเพื่อนสาวมั่ว ๆ คนนึงจะชนะใครคนนึงยังไงล่ะคะ ถ้าน้องคิตตี้จะทำ PBN ขอแนะนำให้ลงมือทำแบบเนียน ๆ ดูแลระบบให้ดี มีคุณภาพหน่อย จะได้ไม่ต้องมานั่งกลัว Google ฟาดทีหลังค่ะ