น้องคิตตี้เองนะคะ เราจะมาชำแหละ (แต่อ่อนโยน) ว่า SEO Marketing คืออะไร และจะใช้มันยังไงให้ปังแบบไม่ต้องเปลืองงบโฆษณา!
SEO = Search Engine Optimization
Search Engine Optimization แปลตรงตัวคือ “การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ถูกใจ Google” ในเวลาคนค้นหาคำว่า “รับทำ SEO” แล้วเว็บของเราโผล่ขึ้นหน้าแรก! (ถ้าไม่ขึ้นหน้าแรก = เหมือนไม่มีอยู่จริงค่ะ เจ็บแต่จริง)
SEO Marketing คืออะไร?
SEO Marketing คือการวางกลยุทธ์ “เพิ่มการมองเห็นแบบออร์แกนิก” (ไม่ต้องซื้อโฆษณา) ด้วยการปรับ คอนเทนต์-เทคนิค-ลิงก์ ให้ตรงสัญญาณจัดอันดับของเสิร์ชเอนจิน โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ ทราฟฟิกคุณภาพ, คอนเวอร์ชัน, และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ในระยะยาว Exploding Topics
บริบทในปี 2025: Google เริ่มแสดง “AI Overviews” และ “AI Mode” ที่ตอบคำถามยาว ๆ บนหน้าเดียว ทำให้คลิกสู่ออร์แกนิกลดลงและการแข่งขันด้านคุณภาพ-ความเชี่ยวชาญ (E-E-A-T) เข้มข้นขึ้นกว่าเดิม Voxsearchengineland.com
ทำไมธุรกิจยุคใหม่ต้องทำ SEO Marketing ?
- คนค้นหาบน Google วันละ หลายพันล้านครั้ง!
- การทำ SEO ช่วยให้ติดอันดับโดยไม่ต้องซื้อโฆษณาทุกเดือน
- เป็นทรัพย์สินระยะยาว (ลงทุนทีเดียว อยู่ได้หลายปีเลยค่ะ!)
- สร้างความน่าเชื่อถือกว่าโฆษณาแบบจ่ายเงิน
สรุปง่าย ๆ: SEO เหมือนร้านที่ตั้งอยู่ริมถนนหลัก คนผ่านไปผ่านมาเห็นตลอด
ไม่ทำ = เหมือนเปิดร้านอยู่ในซอยลึกที่ไม่มีใครเดินผ่านเลยค่ะ
เผย 10 กลยุทธ์ทำ SEO Marketing ให้ปังยุค 2025 (อัปเดตล่าสุด!)
1. เริ่มต้นด้วย Keyword Research แบบมือโปร
ต้องรู้ก่อนว่าคนค้นหาอะไร
ใช้เครื่องมือเช่น:
- Google Keyword Planner
- Ubersuggest
- Ahrefs (สำหรับสายจริงจัง)
Tip จากคิตตี้:
เลือกคำที่มีปริมาณค้นหาพอประมาณ + ไม่แข่งแรงเกินไปก่อนนะคะ
เราไม่ต้องแย่งกับ Lazada Shopee ทุกคำก็ได้
2. เนื้อหาต้องคุณภาพ (Content is Queen!)
อย่าเขียนแค่ให้ยาว แต่เขียนให้ตรงใจคนอ่าน
ตอบคำถามให้ได้มากที่สุด และอย่าลืมใส่ประสบการณ์ของตัวเองลงไปด้วยค่ะ (E-E-A-T มาแรงมาก!)
3. Optimize On-Page SEO ทุกหน้า
เช่น Title, Meta Description, URL, H1-H6, Alt Text บนรูป
ตัวอย่าง:
- URL สั้นและมี keyword เช่น:
/รองเท้าแตะน่ารัก
4. ทำ Blog อย่างสม่ำเสมอ
Google ชอบเว็บไซต์ที่ Active
ใครไม่มี Blog = พลาดโอกาสติดอันดับเพียบเลยนะคะ
เน้นเขียนจากประสบการณ์/รีวิวจะเวิร์คสุด!
5. วางแผน Internal Link ฉลาด ๆ
ลิงก์จากหน้า A ไปหน้า B ภายในเว็บ
ช่วยกระจายพลัง SEO + ทำให้ Google เข้าใจโครงสร้างเว็บดีขึ้นค่ะ
6. ปรับเว็บให้โหลดไว! (Page Speed Matters)
เว็บช้า = คนออก = อันดับร่วง
ใช้ Google PageSpeed Insights เช็กเลยค่ะ
หรือจ้าง Dev หนุ่มหล่อช่วยปรับก็ไม่เสียหาย 555
7. รองรับมือถือ 100% (Mobile-Friendly)
คนเข้าเว็บผ่านมือถือมากกว่า 70% แล้วค่ะ
ถ้าเว็บเรายังต้อง “ขยายจอ” เพื่ออ่าน ถือว่าไม่ผ่านนะคะ!
8. ใส่ Schema Markup เพิ่มพลัง SEO
เช่น ให้ Google เข้าใจว่าอันนี้คือบทความ, สูตรอาหาร, รีวิวสินค้า
เพิ่มโอกาสแสดงเป็น Rich Snippet แบบมีดาว หรือ FAQ โผล่บนผลการค้นหา
9. ทำ Backlink จากเว็บคุณภาพ (แต่ต้องธรรมชาติ)
อย่าไปซื้อ backlink มั่ว ๆ นะคะ เดี๋ยวโดน Google สวนกลับแน่นอน!
แนะนำให้:
- เขียน guest post
- แชร์บทความในชุมชนออนไลน์
- สร้างคอนเทนต์เจ๋ง ๆ ที่คนอยากแชร์เอง
10. วัดผล วิเคราะห์ ปรับแผน ด้วย GA4 + GSC
ติดตั้ง Google Analytics 4 (GA4) และ Google Search Console (GSC)
เพื่อดูว่า:
- คนเข้าจากคำไหน?
- เข้าหน้าไหนบ่อย?
- บทความไหนควรอัปเดต?
เริ่มทำ SEO Marketing ตั้งแต่วันนี้ เห็นผลในวันข้างหน้า
- ออดิทคอนเทนต์เก่า → ใส่หลัก E-E-A-T + Schema
- เชื่อม GA4 กับ Google Search Console เพื่อวัด “Clicks → Engagement”
- วางแผน Pillar-Cluster 1 ชุด สร้าง internal link ให้ครบภายใน 30 วัน
- ทดสอบ Core Web Vitals → ปรับ CDN/JS ไม่ก์
- แบ่งเวลา 10 % ของ Sprint ทดลองใช้ AI สร้างสรุปบทความ/รีพอร์ต แล้วรีวิวโดยผู้เชี่ยวชาญ
ยึดแนวทางข้างต้น คุณจะได้ทราฟฟิกที่ “ไม่ขึ้นกับงบโฆษณา” และยั่งยืนต่อการเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึมและ AI Overviews ในปี 2025 – 2026
ปิดท้ายด้วยใจคิตตี้
การทำ SEO ไม่ใช่แค่เทคนิค แต่มันคือ “การเข้าใจคน” ค่ะ เราต้องรู้ว่าคนต้องการอะไร และให้ในสิ่งที่เค้ากำลังหาแบบจริงใจ อยากให้คนรักแบรนด์เรา? เริ่มต้นด้วยการ “ให้คุณค่า” ก่อน แล้ว Google จะตอบแทนเราด้วยอันดับที่ดีเองค่า
ถ้าเพื่อน ๆ อยากให้คิตตี้เขียนบทความต่อยอด เช่น:
- SEO สำหรับร้านค้าออนไลน์
- SEO vs SEM
ก็บอกมาได้เลยนะคะ~ คิตตี้พร้อมแปลงร่างเป็นนักการตลาดสายมุ้งมิ้งตลอดเวลาเลยค่า